พาณิชย์ฯ ย้ำ! ข้าวไทย ต้องใช้ตลาดนำการผลิต


พาณิชย์ฯ ย้ำ! ข้าวไทย ต้องเร่งใช้การตลาดนำการผลิต แนะใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน ผลักดันข้าวไทยคุณภาพดีสู้คู่แข่ง เชื่อยังเป็นที่ต้องการของตลาด

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดเสวนาโต๊ะกลม “เสียงสะท้อนชาวนาไทยทั้งแผ่นดิน” ภายใต้โครงการพลังประชารัฐพัฒนาข้าวไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังเสียงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจาก 42 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำมารวบรวมข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อผลักดันสู่ยุทธศาสตร์ข้าวของประเทศ

รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตชาวนาดีขึ้น มีการปลูกข้าวที่เป็นระบบ ซึ่งการปลูกข้าวในอนาคตต้องใช้การตลาดนำการผลิต จะต้องรู้ว่ามีการปลูกข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ จำนวนเท่าไหร่ มีการพยากรณ์ตลาดล่วงหน้า โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการพูดคุยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าผลิตข้าวได้ดีมีคุณภาพและชะลอการนำข้าวออกมาขายจะทำให้ข้าวมีราคาดีขึ้น และหากชาวนามีปัญหาเรื่องข้าว สามารถโทร.ไปปรึกษาได้ที่เบอร์ 1569

“ผู้ที่จะทำให้ข้าวไทยประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับชาวนาไทย ไม่ใช่เจ้าของโรงสี และเชื่อมั่นว่าข้าวไทยมีคุณภาพดีที่สุดในโลก แต่หลังจากนี้ชาวนาไทยจะต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากขึ้น เช่น ชาวนาญี่ปุ่นสามารถปลูกข้าวได้เองในครอบครัว โดยใช้แรงงานคนเพียงแค่ 2-3 คน สามารถผลิตข้าวได้จำนวนมาก” นางสาวชุติมา กล่าว

รมช.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ข้าวไทย ว่าข้าวหอมมะลิขณะนี้ราคายังสูง ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยตันละ 12,000 บาท คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการใช้หลักการตลาดนำการผลิตมาควบคุมปรับสมดุลปริมาณและความต้องการ พร้อมยืนยันการค้าข้าวจะต้องเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะที่การส่งออกไม่น่าห่วง แม้จะมีสงครามทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจก็ตาม

ด้าน ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทย ขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวล แม้จะมีคู่แข่งหลายประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชา เนื่องจากยังมีปริมาณข้าวสำหรับการส่งออกไม่เพียงพอ ดังนั้นมั่นใจได้ว่าข้าวไทยยังเป็นที่ต้องการ และข้าวหอมมะลิไทยขณะนี้ก็มีแนวโน้มดีขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐ