“ปาบึก” เริ่มแผลงฤทธิ์ ทวีความรุนแรงหลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย


ทุกภาคส่วนพร้อมรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” เริ่มแผลงฤทธิ์วันที่ 3-5 ม.ค. ทวีความรุนแรงหลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย คาดความเร็วลมสูงสุดถึง 95 กม.ต่อ ชม. เทียบเท่าพายุ “แฮเรียต” ที่เคยซัดถล่มแหลมตะลุมพุกเมื่อปี 2505 จ่อขึ้นฝั่งเขตรอยต่อชุมพร-สุราษฎร์ธานี ช่วงค่ำวันที่ 4 ม.ค. ได้รับผลกระทบทุกจังหวัดภาคใต้ เตือนภัย 4 จังหวัดหนักสุด “ประจวบฯ ชุมพร สุราษฎร์ฯ นครศรีธรรมราช” มท.1 สั่งเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งเรื่องไฟฟ้าและการระบายน้ำ พร้อมอุปกรณ์กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม. สทนช.เร่งพร่องน้ำในเขื่อนรองรับปริมาณน้ำฝน ชาวประมงผวาหนักรีบนำเรือกลับเข้าฝั่งหลบพายุ เรือโดยสารงดให้บริการ ส่วน โรงพยาบาลบางสะพานเตรียมย้ายผู้ป่วยวิกฤติหนักไปที่ปลอดภัย

 

 

 

ส่วนทางด้าน นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 11 ระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (3 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 6.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทยในวันที่ 3 ม.ค.และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรอยต่อระหว่าง จ.ชุมพรและสุราษฎร์ธานี ในช่วงค่ำของวันที่ 4 ม.ค.โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค.ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยมีผลกระทบดังนี้

ในช่วงวันที่ 3-4 ม.ค.จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล

ในช่วงวันที่ 4-5ม.ค. บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่วันที่ 3-5 ม.ค.