TSUJIRI ร้านมัทฉะ

ทำไม TSUJIRI ร้านมัทฉะเก่าแก่ญี่ปุ่นถึงฝันอยากเป็นแบบ ‘สตาร์บัคส์’ ของคนรักชา

TSUJIRI ร้านมัทฉะที่มีประวัติยาวนานกว่า 160 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งโดย Riemon Tsuji ในปี 1860 มีชื่อเสียงกับการเป็นผู้บุกเบิกการผลิตชาเขียวคุณภาพสูง เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ตั้งเป้าใหญ่เป็น ‘สตาร์บัคส์แห่งโลกชา’

 

Shiro Tsuji ซีอีโอรุ่นที่ 6 ของTSUJIRI CHAHO พูดถึงการบริหารธุรกิจว่ากับสูตรความสำเร็จในการนำแบรนด์ชาเขียวเก่าแก่กว่า 160 ปีไปสู่ตลาดโลก ด้วยหลักการที่ว่า “พื้นฐาน 90% และความสนุกสนาน 10%” โดยส่วนของ “พื้นฐาน” นั้นคือการให้ความสำคัญกับคุณภาพอย่างเหนือชั้น พวกเขาควบคุมคุณภาพของชาทุกขั้นตอนในระดับห้องปฏิบัติการ มีการวิเคราะห์ละเอียดถึงขนาดอนุภาคชา, ความชื้น, และสีสัน เพื่อให้มั่นใจว่าชาทุกถุงที่ส่งออกไปมีคุณภาพดีที่สุด

 

ส่วนของ “ความสนุกสนาน” อีก 10% คือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่ผสมผสานชาเขียวเข้ากับวัฒนธรรมและวัตถุดิบของแต่ละท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เมเปิ้ลไซรัปในแคนาดา หรือการดัดแปลงเมนูของหวานในฟิลิปปินส์ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก แต่ยังช่วยเผยแพร่ “วัฒนธรรมญี่ปุ่น” ผ่านแก้วชาเขียวให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสอย่างแท้จริง

 

 

“หลายคนมองว่ามัทฉะเป็นเพียงแค่รสชาติหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วมันคือ ‘วัฒนธรรมญี่ปุ่น’ ที่สามารถแบ่งปันไปทั่วโลกได้” ซีอีโอ ชิโระ สึจิ กล่าว ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่ Tsujiri มุ่งมั่นจะสานต่อเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาเขียวให้เป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก

 

การที่แบรนด์มีความตั้งใจมีเป้าหมายเป็น “สตาร์บัคส์แห่งโลกของชา” ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดกับการยกเชนร้านกาแฟระดับโลกมาเป็นคู่เทียบที่น่าสนใจในเชิงการตลาด ทั้งในเรื่องของการสร้างแบรนด์ โดยสตาร์บัคส์สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์พรีเมียมได้ด้วยการตั้งราคาที่สูงกว่าตลาดทั่วไป ขณะเดียวกัน TSUJIRI ก็ใช้กลยุทธ์นี้ผ่านคุณภาพของวัตถุดิบ (ใบชาจากเมืองอุจิ) และความเก่าแก่ของแบรนด์ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้ดื่มชาคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า

 

ที่มา: เฟซบุ๊ก TSUJIRI Taiwan

 

นอกจากนี้ แบรนด์ยังต้องการเปลี่ยนวัฒนธรรมการบริโภค จากเดิมที่การชงชาเป็นพิธีการที่ซับซ้อนสำหรับชนชั้นสูงของญี่ปุ่น แต่ TSUJIRI ต้องการทำให้มัทฉะเข้าถึงง่าย และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก รวมถึงการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ของมัทฉะ เช่น ไอศกรีม, พาร์เฟต์, หรือขนมหวานต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่หลากหลายและตอบโจทย์รสนิยมของคนรุ่นใหม่ในแต่ละพื้นที่

 

ปัจจุบันแบรนด์มีการขยายสาขาไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, สิงคโปร์, จีน, ฟิลิปปินส์, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, นิวซีแลนด์ ขณะที่ในประเทศไทยได้ประกาศปิดทุกสาขาในวันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันไม่มีสาขาของ TSUJIRI ในไทยแล้ว

 

การตั้งเป้าหมายเป็น “สตาร์บัคส์แห่งโลกของชา” TSUJIRI ร้านมัทฉะไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำตามทุกอย่าง แต่คือการนำเอาหลักการที่สตาร์บัคส์ใช้ในการสร้างอาณาจักรธุรกิจระดับโลกมาปรับใช้กับชา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนญี่ปุ่นถนัดและมีคุณค่าทางวัฒนธรรม เพื่อยกระดับมัทฉะให้กลายเป็นเครื่องดื่มสากลที่เข้าถึงผู้คนได้ทั่วโลกอย่างแท้จริง

 

ที่มา: tsujiri, asia.nikkei

 

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง