สุกี้ตี๋น้อย

ปี 67 สุกี้ตี๋น้อยกวาดรายได้ 7,075 ล้านบาท ฟาดกำไร 1,169 ล้านบาท

สุกี้ตี๋น้อย ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 เดินหน้ากวาดรายได้ 7,075 ล้านบาท ฟาดกำไร 1,169 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ร้านอาหารที่มีการบริหาร พัฒนาสินค้าและบริการอย่างน่าสนใจ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ซึ่งเข้าถือบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย ในสัดส่วน 30% ได้เปิดเผยผลประกอบการของธุรกิจในปี 2567 โดยความสนใจไปอยู่ที่ร้านสุกี้ชื่อดัง พบว่ามีกำไรสุทธิ 1,169 ล้านบาท แต่ไม่พบว่ารายได้รวมว่าทำไปเท่าไหร่

 

 

ล่าสุด เช็กจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าในปี 2567 บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด มีรายได้รวม 7,075 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.45% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีกำไร 1,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.83% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน

ย้อนดูผลประกอบการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด

– ปี 2563 รายได้รวม 1,223 ล้านบาท กำไร +140 ล้านบาท
– ปี 2564 รายได้รวม 1,572 ล้านบาท กำไร +147 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้รวม 3,976 ล้านบาท กำไร +591 ล้านบาท
– ปี 2566 รายได้รวม 5,262 ล้านบาท กำไร +907 ล้านบาท

 

 

หากจะแยกประเด็นเพราะอะไร “สุกี้ตี๋น้อย” ถึงเป็นธุรกิจร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในประเทศไทย จุดเด่นที่ทำให้แบรนด์นี้เติบโตและได้รับความนิยมแบ่งได้ดังต่อไปนี้

ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาเริ่มต้นเพียง 219 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ทำให้กลุ่มลูกค้ากว้างมาก ตั้งแต่วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงคนทำงาน เป็นจุดขายที่แข็งแรงในยุคที่ผู้บริโภคต้องการความคุ้มค่า

เปิด 24 ชั่วโมง: เป็นร้านบุฟเฟต์สุกี้ที่เปิด ตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าแรก ๆ ในไทย ตอบโจทย์คนทำงานกลางคืน, ฟรีแลนซ์, หรือคนหิวตอนดึก ซึ่งยังไม่มีคู่แข่งตรงกลุ่มในช่วงเวลาดังกล่าวมากนัก

การตลาดแนวไวรัล-เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น: แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ สนุก ทันสมัย ตี๋น้อยเป็นมิตร ทำให้คนอยากแชร์เวลามาทาน และยังทำการตลาดให้เป็นที่พูด อย่างล่าสุดมีบริการรับชำระเงิน ShopeePay และ SPayLate

ขยายสาขาเร็วและเลือกทำเลอย่างมีกลยุทธ์: เติบโตเร็วมากกว่า 100 สาขาภายในไม่กี่ปี ด้วยการจับพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า, ชุมชน, ห้าง และโซนที่มีคนอาศัยหนาแน่น โดยโมเดลธุรกิจสามารถปรับให้เข้ากับทั้งห้างและสาขา standalone ได้

เมนูหลากหลาย: แม้ชื่อจะเป็น “สุกี้” แต่เมนูมีทั้งของสด หมูเด้ง ปลาหมึก กุ้ง ของทอด ข้าวกระเทียม และของหวาน เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าและลดความจำเจ

สรุปคือ “สุกี้ตี๋น้อย” ไม่ใช่แค่ขายอาหาร แต่ขาย “ประสบการณ์ที่คุ้มค่า เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง” ได้อย่างลงตัวจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไรที่แบรนด์จะประสบความสำเร็จ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง