Foodpanda

Foodpanda ปิดกิจการในไทย หรือทฤษฎีเผาเงินยอมขาดทุนหนักใช้ไม่ได้แล้ว

Foodpanda แอปพลิเคชันฟู้ดส์ เดลิเวอรีมีอันต้องปิดฉากยุติกิจการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย มีผลในวันที่ 23 พ.ค. 68 ปิดฉากการดำเนินงานเป็นระยะเวลากว่าสิบปี สะท้อนให้เห็นบริบททางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป การแข่งขันที่ดุเดือด สภาพของเศรษฐกิจที่เขย่าเสถียรภาพให้สั่นคอน

กำเนิดแพนด้าสีชมพู

Foodpanda เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติเยอรมนี ก่อตั้งในปี 2012 ภายใต้เครือ Rocket Internet ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผ่านโมเดลธุรกิจเป็นการจับคู่ระหว่าง “ร้านค้า” กับ “ลูกค้า” โดยมีไรเดอร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางนำอาหารไปส่งถึงที่พัก พร้อมกับแก้ปัญหาเรื่องของการเดินทาง ลดเวลา อำนวยความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งโลโก้ของแบรนด์จะเป็นรูปสัตว์อย่าง “แพนด้า” ที่ให้ความรู้สึกร่าเริง สนุกสนาน สดใส

 

 

การเข้ามาเปิดตลาดในประเทศช่วงแรก ถือว่ามีความหวือหวามาก ด้วยช่วงนั้นการสั่งอาหารออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันถือเป็นเรื่องใหม่จึงทำให้ได้รับความนิยม ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนขยายบริการครอบคลุมครบ 77 จังหวัด โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ฐานข้อมูลที่มีความแม่นยำจนสร้างความพึงพอใจให้กับพาร์ทเนอร์ และลูกค้า

Foodpanda มีจุดเปลี่ยนที่สำคัญในปี 2015 Delivery Hero ได้เข้าซื้อกิจการ และเพิ่มบริการจากเดิมคือจัดส่งอาหาร เป็นจัดส่งเอกสาร และพัสดุเข้ามา

ประกาศลาไปก่อน

ในช่วงสายของวันที่ 23 เม.ย.68 foodpanda Thailand ได้ประกาศแถลงการณ์ผ่านหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า โดยเนื้อหาว่า

food panda Thailand ขอแจ้งยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน foodpanda มีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568
.
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ขับเคลื่อนธุรกิจร่วมจัดส่งความสุข ผ่านทุกๆ ออเดอร์ให้แก่ลูกค้าทุกท่านในประเทศไทย เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ลูกค้าที่รักยิ่งของเรา และได้รับการสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอดจากร้านค้า พารท์เนอร์ และไรเดอร์ทุกท่าน ที่ร่วมเป็นผู้ขับเคลื่อนความสำเร็จที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพตลาดในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของฟู้ดแพนด้าอีกต่อไป
.
เรามีความเสียใจอย่างยิ่งที่การเดินทางของเราต้องสิ้นสุดลง และเราขอขอบพระคุณลูกค้าทุกๆ ท่านที่เชื่อมั่นในฟู้ดแพนด้าเสมอมา
.
ขอแสดงความนับถือ
ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย

จากประกาศที่เผยแพร่ ทำให้แอปฯ ฟู้ดส์ เดลิเวอรี สีชมพูรายนี้ ถึงเวลาต้องปิดฉากเส้นทางการให้บริการในไทย ด้วยระยะเวลา 12 ปีลงอย่างน่าใจหาย

 

 

 

สงครามเดลิเวอรีที่ดุเดือด

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจฟู้ดส์ เดลิเวอรี มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ตามเทรนด์ และโอกาสของตลาด นำมาสู่ผู้เล่นหน้าใหม่หลากหลายราย โดยผลประกอบการของ Food panda ภายใต้ บริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าขาดทุนยับ ก่อนปิดกิจการการในไทย

– ปี 2562 รายได้ 818 ล้านบาท ขาดทุน -1,265 ล้านบาท
– ปี 2563 รายได้ 4,375 ล้านบาท ขาดทุน -3,596 ล้านบาท
– ปี 2564 รายได้ 6,787 ล้านบาท ขาดทุน -4,722 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้ 3,628 ล้านบาท ขาดทุน -3,255 ล้านบาท
– ปี 2566 รายได้ 3,843 ล้านบาท ขาดทุน -522 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าหากนับผลประกอบการเฉพาะ 5 ปีหลัง พบว่าธุรกิจขาดทุนสะสมรวมกันกว่า 1 หมื่นล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือดในกลุ่ม Red Ocean ตลอดจนสภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยมั่นคงสักเท่าไหร่ ผู้คนต้องรัดเข็มขัดกันมากขึ้น

ทำไมถึงเลิกกิจการในไทย

หนึ่งในวิธีการทำธุรกิจสตาร์ทอัพยอดนิยม นั่นคือการลงทุน Burn Money หรือเผาเงิน โดยนำเงินลงทุนจำนวนมาก ๆ มาใช้จัดสรรไปตามกระบวนการทำงาน แบบไม่เน้นหวังผลกำไร เพื่อจะดึงฐานลูกค้า ตลอดจนร้านค้าให้เข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์ม ผ่านโปรโมชัน และส่วนลดต่าง ๆ เหล่านี้เมื่อได้ฐานลูกค้าระดับที่พึงพอใจก็จะวนกลับมาสู่การสร้างรายได้กลับมาสู่ธุรกิจในที่สุด

แต่เมื่อมองผลประกอบการจะพบว่าวิธีนี้ดูจะไม่ค่อยได้ผลลัพธ์ที่ดีสักเท่าไหร่นัก ดูจากตัวเลขการขาดทุนที่มีมาโดยตลอด แน่นอนว่าหากปล่อยไว้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ คงไม่ดีสักเท่าไหร่นัก สุดท้ายต้องมาเจ็บตัวในที่สุด ดังนั้นการหยุดกิจการในไทยจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทแม่ที่เน้นธุรกิจในประเทศที่ทำกำไร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ยุโรป และลาตินอเมริกามากกว่า สวนทางกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากเมื่อก่อนเคยเป็นตลาดหลัก แต่ตอนนี้ถูกมองว่ามีความสุ่มเสี่ยงกับการทำธุรกิจในระยะยาวแบบยั่งยืน

ที่มา: Food panda Thailand, thecloud, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เรื่องที่เกี่ยวข้อง