Fuku Matcha

Fuku Matcha จากคนช่างสังเกตสู่แบรนด์ชาเขียว สร้างรายได้กว่า 300 ล้าน

Fuku Matcha แบรนด์เครื่องดื่มชาเขียวสัญชาติไทยแท้ แต่แฝงความเป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่น แม้ปัจจุบันธุรกิจจะเปิดมามากกว่า 12 ปี แต่สามารถสร้างรายได้ไปกว่า 300 ล้านบาทเลยทีเดียว

เป็นที่ทราบกัน “มัทฉะ” เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มชาที่หลายคนชื่นชอบ เพราะดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง, โรคระบบประสาท ช่วยให้ร่างกายมีความตื่นตัว ลดความเครียด ช่วยให้หลับง่าย ด้วยคุณประโยชน์เหล่านี้จึงทำให้ผู้คนหันมาดื่ม “มัทฉะ” กันมากขึ้น แต่การจะมองหาชาเขียวคุณภาพดี ๆ นั้น อาจจะมีเรื่องตามมานั้นคือราคาที่สูงตาม

หากมองในมุมธุรกิจนี่จึงเป็นโอกาส โดยกรณีศึกษาที่น่าสนใจนั่นคือ Fuku Matcha ซึ่งมีคุณฐาน์ศศิริ์ ธรรมานุสาร ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง เมื่อมองไปจุดเริ่มต้นของแบรนด์แล้ว พบว่าเกิดจากการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นคือการพบชาหลากหลายรูปแบบ แต่กลับประเทศไทยยังมีไม่มากขนาดนั้น เช่นเดียวกับ “มัทฉะ” การจะหามารับประทานเป็นเรื่องอย่าง แถมราคาสูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง

 

ร้าน Fuku Matcha

 

นี่จึงเป็นความท้าทายกลับมาเปิดธุรกิจในปี พ.ศ.2555 สร้างแบรนด์เครื่องดื่มที่อยากให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ดื่ม “มัทฉะ” ที่มีคุณภาพ ดำเนินกิจการมาถึงปัจจุบันที่มเครื่องดื่มหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว, ชานม, ซอฟต์ไอศกรีม เริ่มต้นในราคา 65 บาท ไม่เพียงเท่านั้น กระแสตอบรับของแบรนด์ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ดูได้จากจำนวนสาขาที่ไปเปิดตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มากกว่า 113 แห่ง แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ คงหนีไม่พ้น กลุ่มวัยรุ่น และคนวัยทำงาน

ผลประกอบการ บริษัทมายฟุกุ มัทชะ จำกัด

– ปี 2564 รายได้รวม 150 ล้านบาท ขาดทุน -11 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้รวม 195 ล้านบาท ขาดทุน – 15 ล้านบาท
– ปี 2566 รายได้รวม 318 ล้านบาท กำไร + 20 ล้านบาท

 

ร้าน Fuku Matcha

 

เมื่อวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ สามารถมองได้ในหลายมิติ ดังต่อไปนี้

ความคุ้มค่าของราคา

นี่คือวัตถุประสงค์เป้าหมายของการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ โดยให้ความสำคัญกับคำว่า “ความคุ้มค่า” ที่ในแต่ละส่วนต้องเดินไปในทิศทางเดียวกัน ทั้ง สินค้ามีคุณภาพ รสชาติถูกปาก มีสูตรเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ และนำมาสู่ราคาที่ลูกค้าจ่ายอย่างเหมาะสมกับเงินที่เสียไป เมื่อแบรนด์มีมาตรฐานลูกค้าก็จะตามมาจนเกิด Brand Loyalty ในที่สุด

เมนูที่ลูกค้าเลือกเอง

ทุกวันนี้ลูกค้าไม่อยากจะกินอะไรเหมือน ๆ เดิม โดยมีแบรนด์เป็นผู้เลือกให้ ดังนั้น การเปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นผู้เลือกว่าอยากจะดื่มเครื่องดื่มแบบไหน ใส่ท้อปปิ้งอะไร นอกจากนี้ แบรนด์ยังตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลาด้วยการออกเมนูเครื่งอดื่มใหม่ ๆ ให้ทันตามกระแส เช่น ชาครีมชีสผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น

ทำการตลาดอยู่เสมอ

กลยุทธ์ที่จะทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงกลายเป็นกระแส คือการทำการตลาด จัดโปรโมชันเป็นระยะ ๆ เช่น ดับเบิลแบลคชานม ซื้อ 1 แถม 1 ในราคา 85 บาท, ชานมสูตรไลท์ไข่มุก เอาใจคนรักสุขภาพ เพียงแก้วละ 49 บาท แค่ 5 วันเท่านั้น หรือจะเป็นในช่วงวันเด็กที่มีการแจกฟรีนมสดไข่มุก

ปัจจุบันแบรนด์ได้ขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Kyoto Inari ร้านชาเขียวเกรดพรีเมียม คุณภาพสูง, Fuku X2 คาเฟ่ขนมหวาน โดดเด่นในเรื่องความอร่อยของเครื่องดื่มมัทฉะและซอฟต์ครีมชาเขียวคุณภาพดีแบบคูณ 2

 

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ