โอ้กะจู๋

OKJ เจ้าของโอ้กะจู๋ ทำกำไรปี 67 รวม 202 ล้านบาท อัตรายอดขายยังแข็งแกร่ง

ปี 2567 ยอดขาย OKJ เจ้าของ “โอ้กะจู๋” ร้านอาหารเพื่อสุขภาพรายได้เติบโต 41.4% ทำกำไรกว่า 200 ล้านบาท เติบโต 43.4% จากปัจจัยยอดขายสาขาเดิมที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง

บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) เจ้าของร้านโอ้กะจู๋ รายงานผลประกอบการปี 2567 แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าธุรกิจมีรายได้จากการขายคิดเป็น 2,421 ล้านบาท เติบโต 41.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ 202 ล้านบาท เติบโต 43.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในปีที่ผ่านมา แบรนด์ได้ขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ จำนวน 8 สาขา, ร้านโอ้ จู๊ซ จำนวน 15 สาขา และร้านแรปแอนด์โรล 1 สาขา ตามเป้าหมายที่วางไว้

ในขณะเดียวกัน อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง คิดเป็น 7.7% โดยปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการของธุรกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากการขยายสาขา รวมถึงการเปิดแบรนด์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีการจัดการบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิอาจเพิ่มไม่สูงมากนัก เพราะว่าช่วงปลายปีมีการลงทุนกับค่าใช้จ่ายทางการตลาด และต่าใช้จ่ายในการขยายสาขาไปยังภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน)

 

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,341 ล้านบาท คิดเป็น 99% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 1,005 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเพิ่มทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ และสินทรัพย์สิทธิการใช้ที่แปรผันตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น

ด้านหนี้สินรวม อยู่ที่ 952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180 ล้านบาท คิดเป็น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเจ้าหนี้การค้า และเจ้าหนี้อื่น ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือ และงวดการชำระเงินขิงค่าก่อสร้างเพื่อการขยายสาขารวม จำนวน 125 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มขึ้นของหนี้สินตามสัญญาเช่า จำนวน 89 ล้านบาท จากการขยายสาขเพิ่มขึ้น

ส่วนผู้ถือหุ้นรวมอยู่ที่ 1,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,161 ล้านบาท คิดเป็น 201% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของทุนจดทะเบียน และส่วนเกินมูลค่าหุ้นที่บริษัทเพิ่มทุน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมจำนวน 1,038 ล้านบาท (สุทธิจากค่าใช้จ่ายและภาษีที่เกี่ยวข้อง) ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร จำนวน 105.7 ล้านบาท

ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ