AI

ความก้าวหน้า AI – หุ่นยนต์ ทำแรงงาน 14% ทั่วโลกอาจต้องเปลี่ยนอาชีพภายในปี 2030

แรงงานทั่วโลกถึง 375 ล้านคน (คิดเป็น 14%) อาจต้องเปลี่ยนอาชีพภายในปี 2030 เพราะกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มมากขึ้น ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน และภารกิจมากมายที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

รายงานของ McKinsey เกี่ยวกับอนาคตของการทำงาน ระบุว่าผู้บริหาร 2 ใน 3 เชื่อว่าบริษัทจะต้องจัดให้มีการฝึกอบรมใหม่ หรือเปลี่ยนพนักงานมากกว่า 1 ใน 4 ภายในปี 2030 เนื่องจากหวังแก้ปัญหาช่องว่างทักษะที่อาจเกิดขึ้นกับระบบอัตโนมัติ และการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล

คำถามสำคัญแล้วพนักงานจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ หรือถูกแทนที่ โดยเรื่องนี้แม้ผู้บริหารจะระมัดระวังเรื่องต้นทุนการฝึกอบรม แต่ต้นทุนเหล่านี้ดูเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับต้นทุนแทนที่พนักงาน สอดคล้องการศึกษาของ CAP เกี่ยวกับต้นทุนการทดแทน โดยเฉลี่ยมีตั้งแต่ 20% ของเงินเดือนรายปีสำหรับตำแหน่งระดับกลางไปจนถึง 213% ของเงินเดือนรายปีสำหรับตำแหน่งผู้บริหาร

ต้นทุนเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทกว้าง ๆ ได้แก่ 1.ต้นทุนการเลิกจ้าง เช่น ค่าชดเชย 2.ต้นทุนการสรรหาบุคลากร -เงิน เวลาที่ใช้ในการค้นหาบุคลากร และ 3.ต้นทุนการผลิต – การสูญเสียชั่วโมงการผลิตขณะที่ตำแหน่งว่างอยู่

 

 

อย่างไรก็ตาม หากดูตามรายงานของ LinkedIn Learning Workplace Learning 2024 มีข้อแนะนำที่น่าสนใจว่าบริษัทต้องฝึกทักษะให้กับพนักงาน เสริมสร้างศักยภาพใหม่ ๆ ให้ทันต่อเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้ง พนักงานที่มีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI ก็ต้องเรียนรู้ที่เพิ่มทักษะตัวเองให้เหนือกว่า เป็นคนคอยควบคุม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในอนาคตเทคโนโลยีจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้ามาทดแทนทั้งหมด สุดท้ายแล้วมนุษย์ยังคงความสำคัญที่จะต้องคอยคุมการทำงานของเทคโนโลยี แม้จะถูกพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วแค่ไหน ก็ยังมีบางเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การสื่อสาร, การเข้าสังคม, ความคิดสร้างสรรค์, การตัดสินใจที่ยังคงเป็นรองมนุษย์อยู่
ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ เปิดโอกาสใหม่ ๆ ของแต่ละบุคคลว่าพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากย่ำอยู่กับที่สุดท้ายอาจเป็นคนตกงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

ที่มา: mckinsey, thomasnet

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง